"มันมีขนสีเงินด้วยค่ะ ถึงแม้จะยังจำอะไรไม่ได้ แต่ฉันก็รู้ดีนะว่าหมาป่าสีเงินที่เป็นประกายสุกปลั่งแบบนี้เราจะหาดูกันไม่ได้ง่ายนักหรอกค่ะ แล้วดูสิคะ นี่คุณมองไม่ออกหรอกหรือว่ามันเชื่องขนาดไหน" ตื่นเต้นๆๆ
"งั้นคุณก็น่าจะรู้ดีน่ะสิ ว่าหมาป่าตัวนี้ไม่น่าจะใช่หมาป่าธรรดา" มองตรงมาเครียดๆ
ส่วนเจ้าหมาสิ่งมหัศจรรย์ของแม่สาวน้อยนั่น มันก็ทำหูลู่ .. ส่งเสียงขู่ๆ เขาอยู่ในลำคอ
โอเรออนเน่สั่นศีรษะ..ไม่เข้าใจ แต่แน่ใจว่าครั้งนี้เขาตั้งใจจะกระแหนะกระแหนหล่อนอยู่แน่ๆ
พอรู้ว่าจะสู้ความเย็นชาครั้งนี้ของเขาไม่ได้ก็ทำตาวาวๆ น้ำตาคลอขอความเห็นใจ
"ไม่ธรรมดา .. มันเป็นตัวจ่าฝูงหรือ?"
"อย่ามาทำเป็นตลกกลบเกลื่อนผมน่า .. ฟรองซัวส์สอนวิชามารแบบนี้ให้คุณมาหรือ?"
ศีรษะใต้กลุ่มผมยาวตรง..สวย.. ส่ายด๊อกแด๊กอีกครา กอดลูกหมาในอ้อมแขนตนไว้แน่นจนมันทำท่าตาเหลือก ตะกายแขนหล่อนคงเพื่อที่จะงับ..หาอากาศหายใจ
"ไมเคิลต่างหากล่ะคะ"
"ถึงว่า .. มุกมันก็เลยไม่ค่อยจะตลก"
ดาม่อนประชดกลับมา..มองออนเน่ที่ยืนตาปริบๆ
ไมค์? ฮึ! .. เจ้าหมอนั่นมันแปรพรรคตั้งแต่เมื่อไร? ปกติทั้งคู่ดูไม่ค่อยจะถูกกัน .. มันไม่ใช่หรอกหรือ?
แฮร่รร!!! กรรรรรร....
เจ้าตัวที่รอดชีวิตจากอ้อมแขนหล่อนมาได้เริ่มส่งเสียงขู่เขาเหมือนจะร่วมด้วยช่วยกันเถียง
"ไม่เอาสิซิลเวอร์ ทำตัวดีๆ สุภาพ น่ารักหน่อยสิ เจ้าของบ้านเขาจะได้สงสาร เห็นใจ จะได้ไม่ใจดำไล่เราทั้งคู่ออกจากบ้านเขาไง"
นั่นล่ะคือสิ่งที่เขาอยากจะทำตอนนี้นั่นแหละ
"เอามันไปขว้างทิ้งข้างนอกไปน่า .. ออนเน่"
กัดฟันออกคำสั่ง
"ตัวนี้มันเป็นหมาป่านะคะ..ไม่ใช่ผ้าขี้ริ้ว คุณอย่ามาออกคำสั่งซี้ซั๊วสิคะ .. ดาม่อน!!" เงยหน้ามาดุเขาอีก
ให้ตายเถอะ!!.. ยัยแม่มดน้อยตนนี้นี่ท่องคาถาบทไหนน่ะ ทำไมถึงได้ไม่มีใครเห็นหายนะที่หล่อนชอบจะขยัน สรรหามาทุ่มใส่เขาซะบ้างเลย!!
"มันเป็นหมาป่า ธรรมชาติของมันก็ต้องอยู่ในป่า แล้วไอ้ตัวนี้มันก็ไม่ใช่จ่าฝูง ก็แค่โอเมก้างี่เง่าที่เข้ากับฝูงไม่ได้ตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ" น้ำเสียงเขาติดจะหยิ่งๆ แถมดูถูกใส่เจ้าตัวที่หล่อนเอ็นดูราวชิวาว่านั่นเต็มที่
"ทำไม? .. น้ำเสียงคุณฟังดูเหมือนอิจฉาหมาป่าที่น่ารักของฉันจังเลยคะ" ปกป้องสมบัติตนเต็มที่เช่นกัน
ดาม่อนทำกิริยาอาการ ปรายหางตา คล้ายจะทุ่มด้วยค้อนในตอนที่โอเรออนเน่พูดว่า 'หมาป่าของฉัน'
"เลี้ยงไม่ได้" คำสั่งครั้งนี้ฟังดูเด็ดขาดและตัดจบ
"เอ็ดเวิอร์ด"
"ขอรับ .. นายท่าน"
"เชิญ ... มันออกไป" เน้นเสียงที่คำว่าเชิญ
หัวหน้าคนรับใช้ ... โค้งคำนับรับคำสั่งสง่างาม
ดาม่อนเดินตัวตรง แต่ใบหน้าเคร่งเย็นชาเข้าห้องทำงานส่วนตัวอย่างตัดสินใจที่จะไม่สนใจความวุ่นวายที่กำลัง จะตามมา
หากแต่เอ็ดเวิอร์ดที่น่าสงสาร
"ปล่อยสิครับคุณหนู!!" ยื้อยุดกันสุดฤทธิ์
"ไม่อ่ะ .. ทำไมใจร้ายกันจังเลยล่ะ"
"ปล่อยเถอะครับ มันคงอยากไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ชายป่าที่กว้างๆ มากกว่า" ปะเหลาะ
"ไม่มัง .. ข้างนอกกลางคืนมันหนาวจะตาย มีแต่คนใจร้ายใจดำเท่านั้นละที่ไม่ยอมสงสารมัน"
.. บร้าาา .. นี่ฤดูร้อนนะครับ!!
เอ็ดเวิอร์ดส่ายหัวในใจ หันไปมองทางห้องทำงานที่ปิดสนิทเงียบ และย่อมแน่ใจว่าคนที่เอ่ยคำว่า 'คนใจดำ' คงตั้งใจจะหมายถึงคนข้างในนั้นมากกว่า
"ว่าใครล่ะ!! ผมเปล่านะ แค่รับคำสั่งมา ..อ้าว.. เอ๋!! คุณหนูปล่อยมันเถอะครับ นี่ รัดคอจนมันตาจะปลิ้นแล้ว!!" .. เฒ่าเจ้าเล่ห์ยอมฉวยจังหวะนี้ละ
"อุ้ย! หรอ! หรอ? ไหนอะ? ..อ๊ะ!!..อ้าย! เอ็ดเวิอร์ด ทำไมขี้โกหกจังล่ะ!! เอาหมาเค้าคืนมาเดี๋ยวนี้นะ ..โถ.. ซิลเวอรรรรร์" เขย่งตัวแย่งหมาแต่ว่าหล่อนก็เตี้ยเกิ๊น!!
"คนใจร้าย!!" หันไปทำพิธีตะโกนใส่ประตูไม้แกะสลักนั่นหนึ่งที ก่อนที่จะวิ่งตามพ่อบ้าน ที่เดินลิ่วๆ หิ้วคอชิวาว่าป่าตัวนั้นนำห่างออกไปไกลหลายก้าว
เสียงตึกตัก..ตึงๆ ของฝีเท้าที่วิ่งห่างออกไป ทำให้ร่างที่นั่งเท้าคางจนใบหน้าของผู้บริหารผู้หล่อเหลาสาวกรี๊ดทั่วทั้งแผ่นดิน มาบัดนี้ดูยู่ยี่ ยุ่งเหยิง ยับเยิน จนเจ้าของต้องสะบัดศีรษะไล่ความงุนงงของอารมณ์ที่ตนเองก็เรียกได้ไม่ถูกเลยสักอารมณ์หนึ่ง .. ก็ตั้งแต่นับจากวินาทีที่เขาดันตัดสินใจรับหล่อนเอามาไว้ในอุปการะนี่ล่ะ!!
นี่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ..
เขาคงจะอุ้มหล่อนทุ่มทิ้งไว้ข้างทางที่น่าจะดีกว่า..อุ้มหล่อนมาวางใส่ในรถเขาแน่นอนเชียวละ
ปล. นิยายเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายโรแมนซ์ ของนักเขียนอังกฤษท่านหนึ่งซึ่งนักเขียนจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร ใครเป็นคนแต่ง เพราะเช่ามาอ่านเมื่อนานมากแล้วละค่ะ .. เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่มดโก๊ะๆ แบบนี้นี่ละ :)
**********
♡ ขอขอบคุณทุกโหลดทุกวิวมา ณ ตรงนี้ด้วยจร้า ♡